แชร์

เจาะลึกซีรีส์ Huawei SUN2000-KTL-M1: ขุมพลังไฮบริด 3 เฟส สำหรับบ้านใหญ่และธุรกิจ

IMG_7945.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 2 ต.ค. 2025
18 ผู้เข้าชม
คู่มือทางเทคนิคและการติดตั้งฉบับสมบูรณ์สำหรับอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ Huawei SUN2000-3/10KTL-M1
ส่วนที่ 1: การวิเคราะห์เชิงลึกอินเวอร์เตอร์ซีรีส์ SUN2000-M1
ส่วนนี้จะนำเสนอการประเมินอินเวอร์เตอร์อย่างละเอียด โดยวิเคราะห์ลึกลงไปในสถาปัตยกรรม คุณสมบัติ และข้อควรพิจารณาในการใช้งานจริง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ครอบคลุมมากกว่าข้อมูลทางการตลาด

1.1 สถาปัตยกรรมหลักด้านประสิทธิภาพ: ประสิทธิภาพสูง, Dual MPPT และความสามารถแบบไฮบริด
ส่วนนี้จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติทางเทคนิคที่เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งเป็นตัวกำหนดขีดความสามารถด้านประสิทธิภาพของอินเวอร์เตอร์

ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานระดับสูง: อินเวอร์เตอร์ซีรีส์นี้มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงสุด (Max. Efficiency) อยู่ในระดับ 98.2% ถึง 98.6% และมีประสิทธิภาพเฉลี่ยแบบยุโรป (European Weighted Efficiency) สูงถึง 98.1% ซึ่งถือเป็นค่าในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม บ่งชี้ถึงการสูญเสียพลังงานที่น้อยมากในกระบวนการแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อปริมาณพลังงานที่ผลิตได้มากขึ้นตลอดอายุการใช้งานของระบบ  

ช่วงแรงดันไฟฟ้าที่กว้าง: อินเวอร์เตอร์รุ่นนี้มีช่วงแรงดันไฟฟ้าสำหรับการติดตามจุดกำลังไฟฟ้าสูงสุด (MPPT Operating Voltage Range) ที่กว้างมาก ตั้งแต่ 140 V ถึง 980 V และรองรับแรงดันไฟฟ้าขาเข้าสูงสุด (Max. Input Voltage) ได้ถึง 1,100 V คุณสมบัตินี้มอบความยืดหยุ่นอย่างมหาศาลในการออกแบบการต่อสตริง (String) ของแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้สามารถรองรับได้ทั้งการต่อสตริงแบบสั้น (จำนวนแผงน้อย) และแบบยาว (จำนวนแผงมาก) โดยมีแรงดันเริ่มต้นการทำงาน (Start-up Voltage) ที่ 200 V  

ระบบ Dual MPPT (Maximum Power Point Trackers): อินเวอร์เตอร์ทุกรุ่นในซีรีส์นี้มาพร้อมกับ MPPT จำนวน 2 ชุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับหลังคาบ้านพักอาศัยที่อาจมีพื้นที่ไม่สม่ำเสมอหรือหันไปในทิศทางที่ต่างกัน ทำให้สามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้ 2 สตริงแยกจากกันอย่างอิสระ เช่น สตริงหนึ่งบนหลังคาทิศตะวันออก และอีกสตริงบนหลังคาทิศตะวันตก โดยแต่ละสตริงจะทำงานที่จุดประสิทธิภาพสูงสุดของตัวเอง  

การออกแบบที่พร้อมสำหรับแบตเตอรี่ (Hybrid/Battery-Ready): อินเวอร์เตอร์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้เป็น "ไฮบริดอินเวอร์เตอร์" หรือ "Battery-Ready" โดยมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อแบตเตอรี่แบบ Plug-and-Play ในตัว ทำให้การเพิ่มระบบกักเก็บพลังงานในอนาคตเป็นไปอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องดัดแปลงหรือใช้อุปกรณ์เสริม อินเวอร์เตอร์รุ่นนี้เข้ากันได้กับแบตเตอรี่ LUNA2000 Smart String ESS ของ Huawei (ขนาด 5 kWh 30 kWh) และเคยรองรับแบตเตอรี่ LG Chem RESU การออกแบบลักษณะนี้ช่วยให้ระบบ "พร้อมสำหรับอนาคต" (Future-proof) สำหรับผู้ที่อาจต้องการติดตั้งแบตเตอรี่ในภายหลัง  

การผสมผสานระหว่างช่วงแรงดัน MPPT ที่กว้างและระบบ Dual MPPT ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การออกแบบระบบสำหรับหลังคาที่มีความซับซ้อนสามารถทำได้อย่างคุ้มค่า หลังคาบ้านพักอาศัยจำนวนมากมักมีสิ่งกีดขวาง เช่น ปล่องไฟ หรือมีหลังคาหลายระนาบที่หันไปคนละทิศทาง อินเวอร์เตอร์ที่มี MPPT เพียงชุดเดียวจะบีบให้ต้องต่อแผงทั้งหมดในสตริงเดียวกัน ซึ่งประสิทธิภาพของทั้งสตริงจะถูกฉุดลงโดยแผงที่ทำงานได้แย่ที่สุด (เช่น แผงที่โดนเงาบัง) แม้ว่าไมโครอินเวอร์เตอร์ (Microinverter) จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็มีต้นทุนต่อแผงที่สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ระบบ Dual MPPT ของ SUN2000-M1 จึงเป็นทางออกที่อยู่ตรงกลาง ช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถสร้างแผง 2 ชุดที่ทำงานแยกจากกันได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ ช่วงแรงดันที่กว้างยังช่วยให้สามารถใช้จำนวนแผงที่น้อยลงในสตริงใดสตริงหนึ่งได้หากมีพื้นที่จำกัด โดยไม่ทำให้แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ความยืดหยุ่นนี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้ Power Optimizer ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูง และจะจำเป็นก็ต่อเมื่อมีเงาบังที่ซับซ้อนมากหรือต้องการติดตั้งแผงในทิศทางที่สาม ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมของระบบต่ำกว่าการใช้ไมโครอินเวอร์เตอร์หรือ Optimizer ทั้งระบบ อินเวอร์เตอร์ในซีรีส์นี้มีตั้งแต่รุ่น 3,000W (3KTL-M1) ไปจนถึง 10,000W (10KTL-M1) โดยมีกำลังการผลิตแผงสูงสุดที่แนะนำตั้งแต่ 4,500 Wp ถึง 15,000 Wp ตามลำดับ  

1.2 ระบบอัจฉริยะและความปลอดภัยขั้นสูง: เจาะลึกระบบ AFCI ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบป้องกัน
ส่วนนี้จะมุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและระบบอัจฉริยะ ซึ่งเป็นจุดขายที่โดดเด่นและสร้างความแตกต่างให้กับอินเวอร์เตอร์ของ Huawei

ระบบป้องกันอาร์คด้วย AI (AI-Powered Active Arc Fault Protection - AFCI): นี่คือคุณสมบัติเรือธงของอินเวอร์เตอร์รุ่นนี้ ระบบนี้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อ "เรียนรู้ด้วยตนเอง" เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของอาร์คไฟฟ้า (Arc Fault) รูปแบบใหม่ๆ ทำให้สามารถตรวจจับอาร์คไฟฟ้ากระแสตรงที่เป็นอันตรายได้อย่างแม่นยำ และสั่งปิดการทำงานของอินเวอร์เตอร์ได้ในเวลาไม่ถึง 0.5 วินาที ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัยได้อย่างมาก  

การระบุตำแหน่งอาร์คที่แม่นยำ (Pinpoint Arc Fault Positioning): สิ่งที่สำคัญคือระบบไม่เพียงแค่ตัดการทำงาน แต่ยังสามารถช่วยระบุตำแหน่งที่เกิดความผิดปกติได้ ซึ่ง Huawei อ้างว่าคุณสมบัตินี้สามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหน้างานได้ถึง 80%  

ชุดระบบป้องกันที่ครอบคลุม: อินเวอร์เตอร์มาพร้อมกับระบบป้องกันมาตรฐานอย่างครบถ้วน ได้แก่ ระบบป้องกันการต่อสาย DC สลับขั้ว (DC Reverse Polarity Protection), ระบบป้องกันการทำงานโดยลำพังเมื่อไฟดับ (Anti-Islanding), ระบบตรวจสอบฉนวน (Insulation Monitoring), อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากฝั่ง DC และ AC (Type II), ระบบป้องกันกระแสเกิน ไฟฟ้าลัดวงจร และแรงดันเกินฝั่ง AC รวมถึงระบบตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่ว (Residual Current Monitoring)  

ฟังก์ชันฟื้นฟูสภาพแผง (Integrated PID Recovery): อินเวอร์เตอร์มีฟังก์ชันในตัวที่ช่วยลดการเสื่อมสภาพของแผงโซลาร์เซลล์บางประเภทที่เกิดจากแรงดันไฟฟ้าสูง (Potential Induced Degradation - PID) ซึ่งสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ได้ยาวนานขึ้น  

คุณสมบัติ "AI-Powered Pinpoint AFCI" ได้เปลี่ยนข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety) ให้กลายเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานและบำรุงรักษาเชิงรุก (Active O&M) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงคุณค่าของผลิตภัณฑ์สำหรับทั้งผู้ติดตั้งและเจ้าของระบบอย่างสิ้นเชิง โดยปกติแล้ว AFCI มาตรฐานเป็นเพียงอุปกรณ์ตัดวงจร เมื่อทำงาน ระบบจะหยุดทำงานทันที และผู้ติดตั้งจะต้องเข้าตรวจสอบแผง สายไฟ และจุดเชื่อมต่อทุกจุดด้วยตนเองเพื่อค้นหาต้นตอของปัญหา ซึ่งใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ระบบของ Huawei สามารถระบุตำแหน่งของความผิดปกติได้ ทำให้กระบวนการวินิจฉัยสั้นลงอย่างมาก ส่งผลให้ระบบหยุดทำงานน้อยลง (เจ้าของระบบสูญเสียการผลิตน้อยลง) และผู้ติดตั้งมีต้นทุนค่าแรงที่ต่ำลง คุณสมบัตินี้จึงส่งผลต่อต้นทุนการเป็นเจ้าของในระยะยาว ทำให้ระบบมีความน่าเชื่อถือและบำรุงรักษาได้ถูกลง ซึ่งเป็นจุดขายที่ทรงพลังนอกเหนือจากราคาเริ่มต้น

1.3 จุดแข็งและข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
ส่วนนี้จะสรุปประโยชน์หลักที่ทำให้ SUN2000-M1 เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาดอินเวอร์เตอร์

ความเข้ากันได้กับ Optimizer: อินเวอร์เตอร์ทำงานร่วมกับ Power Optimizer รุ่น SUN2000-450W-P2 และ SUN2000-600W-P ของ Huawei ได้อย่างสมบูรณ์ การใช้อุปกรณ์นี้ช่วยให้สามารถตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในระดับแผงได้ ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตพลังงานได้ถึง 30% ในสภาวะที่มีเงาบัง และยังเปิดใช้งานคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การสร้างแผนผังแผงอัตโนมัติ (Module Auto-Mapping) และระบบตัดการทำงานฉุกเฉิน (Rapid Shutdown)  

การระบายความร้อนด้วยการพาความร้อนตามธรรมชาติ (Natural Convection Cooling): อินเวอร์เตอร์รุ่นนี้ไม่มีพัดลมระบายความร้อน แต่ใช้การออกแบบที่อาศัยการพาความร้อนตามธรรมชาติ ส่งผลให้เครื่องทำงานเงียบ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับการติดตั้งในที่พักอาศัยซึ่งอินเวอร์เตอร์อาจอยู่ใกล้กับพื้นที่ใช้สอย การไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว (พัดลม) ยังช่วยลดจุดที่อาจเกิดความเสียหายและลดความจำเป็นในการบำรุงรักษา  

การเชื่อมต่อและการตรวจสอบ: อินเวอร์เตอร์มี WLAN ในตัวสำหรับการเชื่อมต่อโดยตรงกับแอปพลิเคชัน FusionSolar เพื่อการตั้งค่าและตรวจสอบระบบ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริม Smart Dongle ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อผ่านสาย Ethernet หรือเครือข่าย 4G เพื่อการตรวจสอบระยะไกลที่เสถียรยิ่งขึ้น  

การยอมรับในอุตสาหกรรม: อินเวอร์เตอร์ซีรีส์ SUN2000 ได้รับการยอมรับให้เป็น "Top Performer" จากการทดสอบความน่าเชื่อถือโดยห้องปฏิบัติการอิสระ PV Evolution Labs (PVEL) ซึ่งเป็นการยืนยันประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากหน่วยงานภายนอกที่มีชื่อเสียง  

แนวทางการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของ Huawei ซึ่งประกอบด้วยอินเวอร์เตอร์, Optimizer, แบตเตอรี่ และแพลตฟอร์มการตรวจสอบ ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เรียกว่า "Walled Garden" ซึ่งมอบการทำงานร่วมกันที่ราบรื่นและคุณสมบัติขั้นสูง แต่ในขณะเดียวกันก็นำไปสู่การผูกขาดกับแบรนด์ (Vendor Lock-in) การที่อินเวอร์เตอร์ , Optimizer , แบตเตอรี่ และแอปพลิเคชัน FusionSolar ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยให้เกิดคุณสมบัติพิเศษ เช่น การระบุตำแหน่งอาร์คที่แม่นยำ และการสร้างแผนผังแผงอัตโนมัติ ซึ่งทำได้ยากหากใช้อุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่น สิ่งนี้สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้และทำให้การติดตั้งและการสนับสนุนง่ายขึ้น เนื่องจากมีจุดติดต่อเพียงแห่งเดียวสำหรับทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม นี่หมายความว่าผู้ใช้ที่เลือกอินเวอร์เตอร์ Huawei จะถูกจูงใจอย่างยิ่งให้ซื้อแบตเตอรี่และ Optimizer ของ Huawei ด้วย หากในอนาคตผู้ใช้ต้องการเพิ่มแบตเตอรี่จากผู้ผลิตรายอื่น การทำงานร่วมกันอาจไม่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นการจำกัดทางเลือกในอนาคต นี่คือข้อดีข้อเสียที่ผู้บริโภคต้องพิจารณา ระหว่างความง่ายในการใช้งานและคุณสมบัติขั้นสูง กับความยืดหยุ่นในการเลือกส่วนประกอบในอนาคต  

1.4 ข้อจำกัดในการใช้งานและข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นและเงื่อนไขเฉพาะที่อินเวอร์เตอร์รุ่นนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

คำเตือนการติดตั้งในพื้นที่ชายฝั่งทะเล: คู่มือผู้ใช้ระบุคำเตือนอย่างชัดเจนว่าไม่ควรติดตั้งอินเวอร์เตอร์ใน "พื้นที่ที่มีความเค็ม" (Salt Areas) ซึ่งหมายถึงบริเวณที่อยู่ห่างจากชายฝั่งไม่เกิน 500 เมตร หรือพื้นที่ที่ได้รับลมทะเล นี่เป็นข้อจำกัดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ติดตั้งจำนวนมากในประเทศไทยซึ่งมีแนวชายฝั่งที่ยาวไกล การติดตั้งในพื้นที่ดังกล่าวอาจทำให้การรับประกันเป็นโมฆะ  

ความท้าทายในการจัดการโหลด 3 เฟส: เนื่องจากเป็นอินเวอร์เตอร์แบบ 3 เฟส เครื่องจะกระจายกำลังไฟฟ้าที่ผลิตได้ออกไปเท่าๆ กันทั้ง 3 เฟส ในบ้านพักอาศัยทั่วไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งกินไฟมากในตอนกลางวัน (เช่น เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่) มักจะต่ออยู่กับเฟสใดเฟสหนึ่งเพียงเฟสเดียว สิ่งนี้อาจนำไปสู่การใช้พลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ    

ข้อจำกัดของระบบสำรองไฟ: ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ กำลังไฟฟ้าสำรองที่จ่ายผ่านอุปกรณ์เสริม BackupBox-B1 นั้นมีจำกัด สำหรับอินเวอร์เตอร์รุ่น 4KTL ถึง 10KTL กำลังไฟฟ้าปรากฏสูงสุดในโหมดสำรองไฟจะอยู่ที่ 3,300 VA ซึ่งเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็น แต่ไม่สามารถจ่ายไฟให้กับบ้านทั้งหลังที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายเครื่องได้  

ส่วนที่ 2: หลักการออกแบบระบบและการเลือกขนาดส่วนประกอบ
ส่วนนี้จะอธิบายถึงกรอบแนวคิดทางทฤษฎีสำหรับการออกแบบระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ (PV Array) ให้เหมาะสมกับอินเวอร์เตอร์ SUN2000-M1 โดยเน้นที่แนวปฏิบัติสมัยใหม่ซึ่งสอดคล้องกับสภาพการใช้งานจริง

2.1 การกำหนดขนาด PV Array: กลยุทธ์การออกแบบให้กำลังการผลิตฝั่ง DC สูงกว่า (DC Oversizing)
ส่วนนี้จะอธิบายแนวคิดและเหตุผลเบื้องหลังการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังการผลิตรวมฝั่ง DC สูงกว่ากำลังไฟฟ้าขาออกฝั่ง AC ของอินเวอร์เตอร์

คำจำกัดความ: การออกแบบให้กำลังผลิตฝั่ง DC สูงกว่า (DC Oversizing) หรือที่เรียกว่าการมีอัตราส่วน Inverter Loading Ratio (ILR) หรือ DC-to-AC Ratio ที่สูง คือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังการผลิตรวม (DC Power Rating) สูงกว่ากำลังไฟฟ้าขาออกของอินเวอร์เตอร์ (AC Power Rating) ตัวอย่างเช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 6 kWp (DC) ร่วมกับอินเวอร์เตอร์ขนาด 5 kW (AC) จะมีอัตราส่วน DC-to-AC เท่ากับ 1.2  

เหตุผล: แผงโซลาร์เซลล์แทบจะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังตามที่ระบุไว้บนฉลาก (Nameplate) เนื่องจากประสิทธิภาพจะลดลงจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิที่สูง, ฝุ่น, การสูญเสียในสายไฟ และมุมของแสงอาทิตย์ที่ไม่เหมาะสมในช่วงเช้าและบ่าย การออกแบบให้กำลังผลิตฝั่ง DC สูงกว่า จะช่วยให้อินเวอร์เตอร์สามารถทำงานที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดได้เร็วขึ้นและนานขึ้นตลอดทั้งวัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณพลังงานที่ผลิตได้ทั้งหมดในแต่ละวัน (kWh) แม้ว่ากำลังไฟฟ้าสูงสุด (kW) จะถูกจำกัดโดยขนาดของอินเวอร์เตอร์ก็ตาม  

อัตราส่วนที่แนะนำ: แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมแนะนำให้มีอัตราส่วน DC-to-AC อยู่ระหว่าง 1.13 ถึง 1.30 โดย "จุดที่เหมาะสมที่สุด" (Sweet Spot) มักจะอยู่ที่ประมาณ 1.25 และโดยทั่วไปไม่แนะนำให้อัตราส่วนสูงเกิน 1.55  

คำแนะนำของ Huawei: เอกสารข้อมูลของ Huawei เองได้ระบุ "กำลังการผลิตแผงสูงสุดที่แนะนำ" (Recommended max. PV power) สำหรับอินเวอร์เตอร์แต่ละรุ่น ซึ่งเป็นการสนับสนุนแนวคิดนี้โดยตรง ตัวอย่างเช่น สำหรับรุ่น 5KTL-M1 (กำลังไฟฟ้าขาออก 5,000 W) แนะนำให้ติดตั้งแผงได้สูงสุด 7,500 Wp (อัตราส่วน 1.5) และสำหรับรุ่น 10KTL-M1 แนะนำที่ 15,000 Wp (อัตราส่วน 1.5) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินเวอร์เตอร์ถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับการ Oversizing ในระดับสูงได้เป็นอย่างดี  

2.2 ความเข้าใจเรื่อง Inverter Clipping และการปรับอัตราส่วน DC-to-AC ให้เหมาะสม
ส่วนนี้จะอธิบายถึงข้อดีข้อเสียที่ต้องพิจารณาในการทำ DC Oversizing และแนวทางการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

Inverter Clipping คืออะไร?: ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกำลังไฟฟ้า DC ที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์มีค่าสูงเกินกว่าความสามารถในการจ่ายไฟฟ้า AC สูงสุดของอินเวอร์เตอร์ อินเวอร์เตอร์จะป้องกันตัวเองโดยการ "ตัด" (Clip) หรือจำกัดกำลังไฟฟ้าส่วนเกินทิ้งไป และรักษาระดับการจ่ายไฟฟ้าสูงสุดไว้ไม่ให้เกินพิกัดของเครื่อง  

Clipping เป็นสิ่งที่ไม่ดีหรือไม่?: แม้ว่า Clipping จะหมายถึงการสูญเสียพลังงานที่ควรจะผลิตได้ แต่การเกิด Clipping เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาที่มีแสงแดดจัดในบางวันของปี ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้เมื่อแลกกับปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาอื่นๆ ทั้งหมด (ช่วงเช้า, บ่าย และวันที่มีเมฆมาก)  

การหาจุดที่เหมาะสมที่สุด: เป้าหมายคือการหาอัตราส่วน DC-to-AC ที่สามารถผลิตพลังงานรายปีได้สูงสุด โดยมีการสูญเสียจาก Clipping น้อยที่สุด ตัวอย่างเช่น ระบบที่มีอัตราส่วน 1.3 อาจสูญเสียพลังงานจาก Clipping ไป 0.9% แต่สามารถผลิตพลังงานรายปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 19% เมื่อเทียบกับระบบที่มีอัตราส่วน 1.0 ในขณะที่อัตราส่วน 1.5 อาจสูญเสีย 4.8% แต่ผลิตพลังงานได้เพิ่มขึ้นถึง 33% การเลือกอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดจึงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในพื้นที่และความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของโครงการ  

2.3 การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย
ส่วนนี้จะให้คำแนะนำในการเลือกแผงโซลาร์เซลล์ และนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการคำนวณการออกแบบในส่วนถัดไป

เทคโนโลยี: แผงโซลาร์เซลล์ชนิด Monocrystalline PERC (Passivated Emitter and Rear Contact) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในที่พักอาศัย การออกแบบแบบ Half-cell ก็มีประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากสามารถรับมือกับเงาบางส่วนได้ดีกว่าและช่วยลดการสูญเสียพลังงานภายในแผง  

แบรนด์/รุ่นที่นิยมในประเทศไทย: แผงที่มีกำลังการผลิตสูง (เช่น 550 Wp) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและหาได้ง่ายในตลาด ได้แก่ JA Solar, Jinko Solar และ Longi  

ข้อมูลสำคัญจาก Datasheet: สำหรับการออกแบบ ค่าที่สำคัญที่สุดคือ แรงดันไฟฟ้าวงจรเปิด (Voc), แรงดันไฟฟ้าที่กำลังสูงสุด (Vmp), กระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Isc) และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ สัมประสิทธิ์อุณหภูมิของแรงดันไฟฟ้า (β_Voc) และของกำลังไฟฟ้า (γ_Pmp)  

การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ควรให้ความสำคัญกับค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิของกำลังไฟฟ้า (Temperature Coefficient of Power) ที่ต่ำ (ซึ่งหมายถึงดีกว่า) เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงในประเทศไทยเป็นสาเหตุหลักของการลดลงของประสิทธิภาพ ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อน จากงานวิจัยพบว่าอุณหภูมิของเซลล์บนแผงสามารถสูงถึง 50-70°C และอาจสูงถึง 80°C เมื่อติดตั้งบนหลังคา ในขณะที่ค่ามาตรฐานที่ใช้ในการวัดกำลังของแผง (Standard Test Conditions - STC) นั้นวัดที่อุณหภูมิเซลล์เพียง 25°C ค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิของกำลังไฟฟ้า (γ_Pmp) จะเป็นตัวกำหนดว่ากำลังไฟฟ้าจะลดลงเท่าใดต่อทุกๆ องศาเซลเซียสที่อุณหภูมิเซลล์สูงขึ้นเกิน 25°C ค่าโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ -0.35%/°C ที่อุณหภูมิเซลล์ 65°C (สูงกว่า STC 40°C) แผงที่มีค่าสัมประสิทธิ์ -0.35%/°C จะสูญเสียกำลังการผลิตไป  

40×0.35%=14% ดังนั้น แผงที่มีค่าสัมประสิทธิ์ที่ดีกว่าเล็กน้อย เช่น -0.30%/°C จะสูญเสียกำลังการผลิตเพียง 12% ภายใต้สภาวะเดียวกัน ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้จะส่งผลให้ปริมาณพลังงานที่ผลิตได้ทั้งหมดแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิเป็นเกณฑ์การเลือกที่สำคัญกว่ากำลังวัตต์สูงสุดเพียงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อน  

สำหรับตัวอย่างการออกแบบในส่วนถัดไป จะใช้ข้อมูลจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 550Wp ที่เป็นที่นิยม เช่น JA Solar JAM72S30-550/MR โดยมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่สำคัญ (ที่ STC) ดังนี้: กำลังไฟฟ้าสูงสุด (Pmax) 550 W, แรงดันไฟฟ้าวงจรเปิด (Voc) 49.90 V, แรงดันไฟฟ้าที่กำลังสูงสุด (Vmp) 41.96 V, กระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Isc) 14.00 A, สัมประสิทธิ์อุณหภูมิของ Voc (β_Voc) -0.275 %/°C และสัมประสิทธิ์อุณหภูมิของ Pmax (γ_Pmp) -0.350 %/°C  

ส่วนที่ 3: คู่มือการออกแบบสตริง PV ทีละขั้นตอน
ส่วนนี้เป็นคู่มือปฏิบัติที่จะนำผู้ใช้ผ่านการคำนวณที่จำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่า PV Array ที่ออกแบบมีความปลอดภัย สอดคล้องกับข้อกำหนด และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดกับอินเวอร์เตอร์ SUN2000-M1

3.1 การรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น: ข้อมูลจำเพาะของอินเวอร์เตอร์ แผง และสภาพอากาศในประเทศไทย
ส่วนนี้จะรวบรวมตัวแปรทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการคำนวณ

ข้อมูลอินเวอร์เตอร์ (จากส่วนที่ 1):

แรงดันไฟฟ้าขาเข้าสูงสุด (Vmax_inverter) = 1100 V

ช่วงแรงดันไฟฟ้า MPPT (V
min_mppt

ถึง V
max_mppt) = 140 V ถึง 980 V

กระแสไฟฟ้าลัดวงจรสูงสุดต่อ MPPT = 19.5 A

ข้อมูลแผงโซลาร์เซลล์ (จากส่วนที่ 2):

แรงดันไฟฟ้าวงจรเปิด (Voc) = 49.90 V

แรงดันไฟฟ้าที่กำลังสูงสุด (Vmp) = 41.96 V

กระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Isc) = 14.00 A

สัมประสิทธิ์อุณหภูมิของ Voc

Voc) = -0.275%/°C

ข้อมูลสภาพอากาศ (ประเทศไทย):

อุณหภูมิต่ำสุดที่คาดการณ์ (Tlow): ใช้สำหรับคำนวณแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่เป็นไปได้ แม้ว่าสถิติอุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึกได้จะอยู่ที่ -1.4°C แต่สำหรับการออกแบบในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย การใช้อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยตามมาตรฐาน ASHRAE จะเหมาะสมกว่า ในตัวอย่างนี้ จะใช้อุณหภูมิที่ค่อนข้างปลอดภัยที่  

10°C

อุณหภูมิเซลล์สูงสุดที่คาดการณ์ (Tcell_high): ใช้สำหรับคำนวณแรงดันไฟฟ้าต่ำสุดขณะทำงาน อุณหภูมิของเซลล์จะสูงกว่าอุณหภูมิอากาศแวดล้อมมาก โดยทั่วไปจะสูงกว่าประมาณ 20-40°C ในประเทศไทย อุณหภูมิเซลล์สามารถสูงถึง 70-80°C ได้ ดังนั้นจะใช้ค่าสำหรับการออกแบบที่  

75°C

3.2 การคำนวณที่ 1: การกำหนดจำนวนแผงสูงสุดต่อสตริง (ขีดจำกัด Voc ที่อุณหภูมิต่ำ)
นี่คือการคำนวณด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าในตอนเช้าของวันที่อากาศเย็นที่สุด แรงดันไฟฟ้าวงจรเปิดรวมของแผงในสตริงจะไม่เกินขีดจำกัดสูงสุดของอินเวอร์เตอร์ที่ 1100 V การที่แรงดันไฟฟ้าเกินขีดจำกัดนี้จะทำให้อินเวอร์เตอร์เสียหายและการรับประกันสิ้นสุดลง  

สูตรและขั้นตอน (อ้างอิงจาก ):  

คำนวณผลต่างอุณหภูมิจาก STC:
ΔT
low

=T
low

T
stc

=10

C25

C=15

C

คำนวณเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของแรงดันไฟฟ้า:
Voltage Increase %=ΔT
low

×β
Voc

=15

C×0.275%/

C=+4.125%

คำนวณแรงดันไฟฟ้า V
oc

สูงสุดที่คาดการณ์ต่อแผง:
V
oc_max

=V
oc

×(1+(Voltage Increase %/100))=49.90V×(1+0.04125)=51.96V

คำนวณจำนวนแผงสูงสุดต่อสตริง:
N
max

=V
max_inverter

/V
oc_max

=1100V/51.96V=21.16

ผลลัพธ์: ปัดเศษลงเสมอ จำนวนแผงสูงสุดต่อสตริงคือ 21 แผง

3.3 การคำนวณที่ 2: การกำหนดจำนวนแผงต่ำสุดต่อสตริง (ขีดจำกัด Vmp ที่อุณหภูมิสูง)
การคำนวณนี้เพื่อให้แน่ใจว่าในวันที่ร้อนที่สุด แรงดันไฟฟ้าของสตริงจะยังคงอยู่ในช่วงการทำงาน MPPT ของอินเวอร์เตอร์ (140 V - 980 V) หากแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 140 V อินเวอร์เตอร์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรืออาจหยุดทำงาน

สูตรและขั้นตอน (อ้างอิงจาก ):  

คำนวณผลต่างอุณหภูมิจาก STC:
ΔT
high

=T
cell_high

T
stc

=75

C25

C=50

C

คำนวณเปอร์เซ็นต์การลดลงของแรงดันไฟฟ้า (ใช้ γ
Pmp

แทนสัมประสิทธิ์ของ V
mp

ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไป ):  


Voltage Decrease %=ΔT
high

×γ
Pmp

=50

C×0.350%/

C=17.5%

คำนวณแรงดันไฟฟ้า V
mp

ต่ำสุดที่คาดการณ์ต่อแผง:
V
mp_min

=V
mp

×(1+(Voltage Decrease %/100))=41.96V×(10.175)=34.62V

คำนวณจำนวนแผงต่ำสุดต่อสตริง:
N
min

=V
min_mppt

/V
mp_min

=140V/34.62V=4.04

ผลลัพธ์: ปัดเศษขึ้นเสมอ จำนวนแผงต่ำสุดต่อสตริงคือ 5 แผง

3.4 การคำนวณที่ 3: การตรวจสอบขีดจำกัดกระแสไฟฟ้าของสตริง
เป็นการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่ากระแสไฟฟ้าลัดวงจรของสตริงไม่เกินขีดจำกัดสูงสุดของอินเวอร์เตอร์

ข้อมูลและการวิเคราะห์:

กระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Isc) ของแผงคือ 14.00 A  

กระแสไฟฟ้าลัดวงจรสูงสุดต่อ MPPT ของอินเวอร์เตอร์คือ 19.5 A  

เนื่องจากแผงในสตริงต่อกันแบบอนุกรม กระแสไฟฟ้าจะไม่เพิ่มขึ้น กระแสของทั้งสตริงจะเท่ากับกระแสของแผงเดียว

ผลลัพธ์: 14.00 A ต่ำกว่าขีดจำกัด 19.5 A อย่างปลอดภัย อินเวอร์เตอร์รุ่น "High Current Version" นี้ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับแผงรุ่นใหม่ที่มีกระแสไฟฟ้าสูง  

3.5 ตัวอย่างการคำนวณ: การออกแบบสตริงสำหรับ SUN2000-5KTL-M1 ด้วยแผง JA Solar 550Wp ในประเทศไทย
ส่วนนี้จะสรุปการคำนวณทั้งหมดเป็นคำแนะนำการออกแบบสุดท้าย

สรุปและคำแนะนำ:

จากการคำนวณ สำหรับระบบในประเทศไทยที่ใช้อินเวอร์เตอร์ซีรีส์ SUN2000-M1 และแผง JA Solar 550Wp แต่ละสตริงจะต้องมีจำนวนแผงระหว่าง 5 ถึง 21 แผง

สถานการณ์ตัวอย่าง: เพื่อให้ได้ขนาด PV Array ประมาณ 6.05 kWp สำหรับอินเวอร์เตอร์ SUN2000-5KTL-M1 (5 kW) ผู้ติดตั้งสามารถใช้สตริงเดียวจำนวน 11 แผง

การตรวจสอบ: จำนวน 11 แผง อยู่ในช่วง 5-21 แผงอย่างปลอดภัย กำลังการผลิตรวมของแผงคือ 11×550Wp=6,050Wp อัตราส่วน DC-to-AC คือ 6050/5000=1.21 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม  

ส่วนที่ 4: ขั้นตอนการติดตั้งและการทดสอบระบบ (Commissioning)
ส่วนนี้จะสรุปขั้นตอนการติดตั้งทางกายภาพและการตั้งค่าซอฟต์แวร์ของระบบ โดยอ้างอิงจากคู่มือและเอกสารอย่างเป็นทางการ

4.1 รายการตรวจสอบก่อนการติดตั้งและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
ส่วนนี้จะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมและการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย

บุคลากรที่มีคุณสมบัติ: การติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ควรดำเนินการโดยช่างไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติและผ่านการฝึกอบรมเท่านั้น  

ตรวจสอบส่วนประกอบ: ก่อนเริ่มการติดตั้ง ให้ตรวจสอบว่าส่วนประกอบในบรรจุภัณฑ์ครบถ้วนและไม่เสียหายตามรายการ  

ตัดการเชื่อมต่อไฟฟ้าทั้งหมด: ก่อนทำการเชื่อมต่อทางไฟฟ้าใดๆ ต้องแน่ใจว่าสวิตช์ DC ของอินเวอร์เตอร์อยู่ในตำแหน่ง OFF และเบรกเกอร์/สวิตช์ภายนอกทั้งฝั่ง AC และ DC อยู่ในตำแหน่ง OFF เช่นกัน แรงดันไฟฟ้าสูงเป็นอันตรายถึงชีวิตจากไฟฟ้าช็อต  

4.2 คู่มือการติดตั้งทางกายภาพ: การติดตั้งตัวเครื่องและการเชื่อมต่อไฟฟ้า (AC, DC, สื่อสาร)
ส่วนนี้จะสรุปขั้นตอนการติดตั้งทางกายภาพทีละขั้นตอน

ติดตั้งขายึด (Mounting Bracket): ยึดขายึดเข้ากับผนังที่แข็งแรงและสามารถรับน้ำหนักของอินเวอร์เตอร์ได้ (17 กก.) ใช้พุก M6x60 ที่ให้มาสำหรับผนังคอนกรีต หรือใช้อุปกรณ์ยึดที่เหมาะสมสำหรับผนังประเภทอื่น  

ติดตั้งอินเวอร์เตอร์: แขวนอินเวอร์เตอร์เข้ากับขายึด สามารถติดตั้งตัวล็อกกันขโมยเพิ่มเติมได้  

เชื่อมต่อสายไฟฟ้าขาออก AC: เชื่อมต่อสาย L1, L2, L3, N และ PE เข้ากับคอนเนคเตอร์ AC ที่ให้มาตามข้อบังคับในพื้นที่ อินเวอร์เตอร์ถูกออกแบบมาสำหรับการเชื่อมต่อแบบ 3W/N+PE ต้องแน่ใจว่ามีการติดตั้งสวิตช์ AC ที่เหมาะสมระหว่างอินเวอร์เตอร์และระบบไฟฟ้า  

เชื่อมต่อสายไฟฟ้าขาเข้า DC: ใช้คอนเนคเตอร์ Staubli MC4 ที่ให้มาพร้อมกับอินเวอร์เตอร์ การใช้คอนเนคเตอร์ที่ไม่เข้ากันอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงและทำให้การรับประกันสิ้นสุดลง เชื่อมต่อสายขั้วบวกและลบจากสตริง PV เข้ากับขั้วต่อที่ถูกต้อง  

เชื่อมต่อสายสื่อสาร: เชื่อมต่อสายสัญญาณสำหรับการตัดการทำงานฉุกเฉินหรือการควบคุมจากระบบไฟฟ้า (ถ้ามี) ติดตั้ง Smart Dongle (WLAN-FE หรือ 4G) เข้ากับพอร์ต USB และขันให้แน่น หากใช้ Dongle 4G ให้ใส่ซิมการ์ดก่อน เชื่อมต่อสาย RS485 สำหรับแบตเตอรี่หรือมิเตอร์วัดพลังงานตามความจำเป็น  

4.3 การทดสอบและตั้งค่าระบบ (Commissioning) ผ่านแอปพลิเคชัน FusionSolar
ส่วนนี้จะอธิบายขั้นตอนการตั้งค่าซอฟต์แวร์ ซึ่งจำเป็นสำหรับการเปิดใช้งานและตรวจสอบการทำงานของระบบ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: ดาวน์โหลดแอป "FusionSolar" จาก Huawei AppGallery หรือสแกน QR code ในคู่มือ (คู่มือรุ่นเก่าบางฉบับอาจอ้างอิงถึงแอป "FusionHome" )  

เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ของอินเวอร์เตอร์: ใช้สมาร์ทโฟนเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่อินเวอร์เตอร์ปล่อยออกมา ชื่อเครือข่าย (SSID) โดยทั่วไปคือ SUN2000L- รหัสผ่านเริ่มต้นคือ Changeme ซึ่งมักจะทำได้ง่ายๆ โดยการสแกน QR code ที่ด้านข้างของอินเวอร์เตอร์ผ่านแอป  

เข้าสู่ระบบในฐานะผู้ติดตั้ง: เปิดแอป เลือกอินเวอร์เตอร์ และเข้าสู่ระบบด้วยบทบาทผู้ใช้ "installer" และรหัสผ่านเริ่มต้น 00000a ระบบจะแจ้งให้เปลี่ยนรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัย  

ดำเนินการตั้งค่าด่วน (Quick Settings): แอปจะเริ่มกระบวนการตั้งค่าอัตโนมัติ  

ตั้งค่า Grid Code: นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ให้เลือก Grid Code ที่ถูกต้องสำหรับประเทศ/ภูมิภาค (เช่น มาตรฐานของ MEA หรือ PEA สำหรับประเทศไทย) เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานสอดคล้องกับข้อบังคับของการไฟฟ้า  

เชื่อมต่อกับ Router: เชื่อมต่ออินเวอร์เตอร์เข้ากับ Wi-Fi Router ของบ้าน เพื่อเปิดใช้งานการตรวจสอบระยะไกล  

เพิ่มอุปกรณ์: ระบบจะตรวจจับและให้เพิ่มอุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ เช่น Smart Power Sensor (มิเตอร์) หรือแบตเตอรี่ LUNA2000  

สร้างบัญชีเจ้าของ: สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่สำหรับเจ้าของระบบ เพื่อให้พวกเขาสามารถตรวจสอบการทำงานของระบบผ่านแอปได้     

ส่วนที่ 5: กลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนทางการเงินและลดค่าไฟฟ้า
ส่วนนี้จะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์เชิงปฏิบัติในการใช้ระบบโซลาร์เซลล์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลักในการประหยัดค่าไฟฟ้า โดยพิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจและข้อเท็จจริงของตลาดในประเทศไทย

5.1 ความสำคัญของการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้เอง: การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟและการวิเคราะห์
ส่วนนี้จะอธิบายว่าเหตุใดการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้เองจึงมีมูลค่ามากกว่าการขายคืนให้กับการไฟฟ้า

ความแตกต่างทางเศรษฐศาสตร์: ในประเทศไทย ค่าไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้ามีราคาสูง (ประมาณ 4-4.7 บาท/หน่วย และอาจสูงถึง 6.2 บาท/หน่วยในช่วง Peak ของอัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU) ในขณะที่อัตราการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินที่ขายคืนให้กับการไฟฟ้า (Feed-in Tariff) นั้นต่ำมาก (2.2 บาท/หน่วย)  

กลยุทธ์หลัก: ความแตกต่างนี้หมายความว่าวิธีที่คุ้มค่าที่สุดในการประหยัดเงินคือการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้เองให้มากที่สุดในแบบเรียลไทม์ ซึ่งเรียกว่า "Self-Consumption" ทุกๆ 1 kWh ที่ใช้เองจะช่วยประหยัดเงินได้ประมาณ 4.5 บาท ในขณะที่การขายไฟฟ้า 1 kWh เดียวกันนั้นกลับสร้างรายได้เพียง 2.2 บาท

5.2 การใช้งานร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน: ใช้แบตเตอรี่ LUNA2000 เพื่อลดผลกระทบจากอัตราค่าไฟฟ้า TOU

ทางออกด้วยแบตเตอรี่: อินเวอร์เตอร์ SUN2000-M1 ถูกออกแบบมาให้พร้อมสำหรับแบตเตอรี่ การเพิ่มแบตเตอรี่ LUNA2000 เข้าไปในระบบจะทำให้พลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ในตอนกลางวันถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แทนที่จะขายคืนในราคาถูก พลังงานที่เก็บไว้นี้สามารถนำมาใช้จ่ายไฟให้กับบ้านในช่วง Peak ตอนเย็นที่มีค่าไฟแพงได้ ซึ่งเป็นการ "ย้าย" พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีจากตอนบ่ายมาใช้ตอนเย็นอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงค่าไฟฟ้าที่สูงในช่วง Peak และเพิ่มผลตอบแทนทางการเงินของระบบได้อย่างมาก อินเวอร์เตอร์รุ่นนี้สามารถจ่ายไฟฟ้า AC ได้เต็มกำลังพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกันได้  

5.3 คำแนะนำในการจัดการระบบ 3 เฟสสำหรับบ้านพักอาศัย
ส่วนนี้จะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการกระจายโหลดที่ไม่สมดุลซึ่งได้กล่าวถึงในส่วนที่ 1.4

ทบทวนปัญหา: อินเวอร์เตอร์ 3 เฟสจะจ่ายไฟฟ้าออกไปเท่าๆ กันทั้ง 3 เฟส หากการใช้ไฟฟ้าในบ้านไม่สมดุล พลังงานที่ผลิตได้จะสูญเปล่า  

แนวทางแก้ไข: การจัดสรรวงจรไฟฟ้าใหม่: ก่อนหรือระหว่างการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ควรให้ช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญทำการวิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าของบ้าน และทำการเดินสายไฟในตู้ไฟฟ้าหลัก (Consumer Unit) ใหม่ เพื่อกระจายโหลดที่ใช้งานหนักในตอนกลางวันให้สมดุลกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทั้ง 3 เฟส ตัวอย่างเช่น หากมีเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่องที่ใช้งานในตอนกลางวัน ควรจัดให้อยู่คนละเฟสกัน วงจรไฟฟ้าสำคัญในห้องครัวและห้องทำงานก็ควรถูกกระจายออกไปเช่นกัน

ผลกระทบ: การจัดสรรโหลดที่เหมาะสมจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าไฟฟ้าที่อินเวอร์เตอร์ผลิตขึ้นจะถูกนำไปใช้งานภายในบ้านอย่างทั่วถึงทั้ง 3 เฟส ซึ่งจะช่วยเพิ่มการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้เองสูงสุด และป้องกันสถานการณ์ที่ต้องซื้อไฟฟ้าในเฟสหนึ่งพร้อมกับขายไฟฟ้าในอีกเฟสหนึ่งดังที่ผู้ใช้ใน ประสบ นี่คือขั้นตอนการปรับปรุงที่สำคัญที่สุดสำหรับระบบโซลาร์ 3 เฟสในบ้านพักอาศัยในประเทศไทย  

IMG_7945.jpeg
Miss Kaewthip
Hi
บทความที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับดูแลรักษา Sungrow SG5.0RS ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพเกิน 10 ปี
SKE แนะนำเคล็ดลับการบำรุงรักษาอินเวอร์เตอร์ Sungrow SG5.0RS ด้วยตัวเองง่ายๆ ตั้งแต่การดูแลความสะอาด, การระบายอากาศ, ไปจนถึงการตรวจสอบผ่านแอป iSolarCloud
12 ต.ค. 2025
คู่มือเลือกขนาดและจำนวนแผงโซล่าเซลล์สำหรับ Sungrow SG5.0RS
SKE แนะนำวิธีเลือกขนาดและจำนวนแผงโซล่าเซลล์ให้เหมาะสมกับอินเวอร์เตอร์ Sungrow SG5.0RS พร้อมหลักการคำนวณ DC Oversizing และข้อควรระวังทางเทคนิค
11 ต.ค. 2025
10 คำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับ Sungrow SG5.0RS จากผู้ใช้งานจริง
SKE Solar ตอบ 10 คำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับอินเวอร์เตอร์ Sungrow SG5.0RS ตั้งแต่เรื่องไฟดับ, การต่อแบตเตอรี่, การรับประกัน, ไปจนถึงการใช้งานแอป iSolarCloud
11 ต.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ