กรณีศึกษา: โรงงานที่ติดตั้ง SG50CX-P2 ลดค่าไฟหลักแสน สู่การสร้างกำไรที่ยั่งยืน

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ค่าไฟฟ้าคือต้นทุนดำเนินงาน (OPEX) ก้อนมหึมาที่ต้องจ่ายทิ้งทุกเดือน แต่ "โรงงาน A" ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปโลหะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ตัดสินใจเปลี่ยน "รายจ่าย" นี้ให้เป็น "สินทรัพย์" ด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop โดยมีหัวใจหลักคืออินเวอร์เตอร์อัจฉริยะ Sungrow SG50CX-P2 บทความนี้คือกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำได้อย่างไร และผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าแค่ไหน

วิเคราะห์ปัญหา: ต้นทุนค่าไฟที่ "กัดกิน" กำไร

"โรงงาน A" เป็นโรงงาน SME ที่มีการใช้เครื่องจักรหนัก เช่น เครื่องเชื่อม, เครื่องปั๊ม, และระบบปรับอากาศในสำนักงาน ซึ่งทำงานหนาแน่นที่สุดในช่วงเวลากลางวัน (08:00 - 17:00 น.)

• ค่าไฟรายเดือน (ก่อนติดตั้ง): ประมาณ 80,000 บาท
• ปัญหา: ค่าไฟในส่วนนี้คือ OPEX ที่ผันผวนตามค่า Ft และกัดกินกำไรของบริษัทโดยตรง ทำให้ควบคุมต้นทุนการผลิตได้ยาก

การตัดสินใจลงทุน: เลือก "อาวุธ" ที่เหมาะสม

โรงงาน A ตัดสินใจลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop ขนาด 50kW (AC) โดยเลือกใช้ Sungrow SG50CX-P2 เป็นอินเวอร์เตอร์หลัก ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ:

1. ความยืดหยุ่นสูงสุด (5 MPPTs): หลังคาโรงงานมีหลายระดับและมีเงาจากปล่องระบายอากาศ การมี 5 MPPTs (รองรับ 10 สตริง) ช่วยให้วิศวกร SKE สามารถออกแบบการวางแผงได้อย่างอิสระ แยกกลุ่มแผงที่โดนเงาออกจากกลุ่มที่ไม่โดนเงา เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด
2. การรองรับ DC Oversizing 1.5 เท่า: SKE ได้ออกแบบระบบโดยติดตั้งแผงโซล่าเซลล์กำลังผลิตสูงรวม 75 kWp เพื่อ "ป้อน" พลังงาน DC ให้กับอินเวอร์เตอร์ 50kW อย่างเต็มที่ ช่วยให้กราฟการผลิตไฟ "อิ่ม" และ "แบน" ที่ 50kW ได้ยาวนานขึ้นตลอดวัน
3. ความน่าเชื่อถือ (Bankability): การเลือกใช้แบรนด์ Sungrow ที่สถาบันการเงินให้การยอมรับ ทำให้การขอสินเชื่อเพื่อการลงทุน (Green Loan) ง่ายขึ้นและมีเงื่อนไขที่ดีกว่า

ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: "การลดค่าไฟหลักแสน" ต่อปี

เรามาดูตัวเลขผลการดำเนินงานจริงหลังจากติดตั้งระบบ:

1. เงินลงทุนเริ่มต้น (CAPEX)

• ค่าติดตั้งระบบ 75 kWp (รวมอินเวอร์เตอร์ SG50CX-P2, แผง Tier 1, อุปกรณ์ป้องกัน, และค่าดำเนินการ) โดยประมาณ: 1,500,000 บาท

2. การประหยัดค่าไฟ (Annual Savings)

• ปริมาณไฟที่ผลิตได้เฉลี่ย (อิงจากพื้นที่อุบลฯ): 4.0 - 4.5 ชั่วโมงแดด/วัน
• คำนวณการผลิตต่อปี: 75 kWp x 4.0 ชม./วัน x 365 วัน = 109,500 หน่วย (kWh)
• อัตราค่าไฟฟ้าโรงงาน (เฉลี่ย): 4.2 บาท/หน่วย
• ประหยัดค่าไฟได้ต่อปี: 109,500 หน่วย x 4.2 บาท = 459,900 บาท/ปี

3. ระยะเวลาคืนทุน (ROI)

• ระยะเวลาคืนทุน: 1,500,000 บาท / 459,900 บาทต่อปี 3.26 ปี

เพียง 3 ปี 3 เดือน โรงงาน A ก็สามารถคืนทุนค่าติดตั้งทั้งหมดได้สำเร็จ!

สู่ "กำไรที่ยั่งยืน": ต้นทุนพลังงานตอนกลางวันกลายเป็นศูนย์

นี่คือจุดที่สำคัญที่สุด! หลังจากปีที่ 3.26 เป็นต้นไป...

ระบบ Solar Rooftop ที่มีอายุการใช้งาน 25 ปี จะยังคงผลิตไฟฟ้าฟรีต่อไปอีก 20 ปีขึ้นไป เงินที่เคยต้องจ่ายให้การไฟฟ้าฯ ปีละ ~460,000 บาท ได้กลายมาเป็น "กำไรสุทธิ" ที่เพิ่มเข้ามาในงบดุลของบริษัทโดยตรง

• กำไรสะสมตลอดอายุโครงการ (25 ปี): (459,900 บาท/ปี x 21.74 ปี) - 1,500,000 (ทุน) กำไรสุทธิกว่า 8.5 ล้านบาท

การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ "ลดค่าไฟหลักแสน" แต่ยังเป็นการ "สร้างกระแสเงินสด" ที่ยั่งยืน, เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน, และยกระดับโรงงานสู่การเป็น "โรงงานสีเขียว" (Green Factory) ที่มีมูลค่ากิจการสูงขึ้นอย่างชัดเจน

---

ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (SKE Solar พร้อมถอดรหัส ROI ให้โรงงานของคุณ)
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน