จาก OPEX สู่ Asset: เปลี่ยนค่าไฟโรงงานให้เป็นสินทรัพย์ด้วยโซล่าเซลล์
จาก OPEX สู่ Asset: โรงงานเปลี่ยนค่าไฟ (ต้นทุน) ให้เป็นสินทรัพย์ถาวรด้วยโซล่าเซลล์
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม "ค่าไฟฟ้า" คือหนึ่งในค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Operating Expenses - OPEX) ก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายทิ้งไปทุกเดือน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถเปลี่ยน "รายจ่าย" ที่ควบคุมไม่ได้นี้ ให้กลายเป็น "การลงทุน" ในสินทรัพย์ (Asset) ที่สร้างผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าให้กับกิจการได้? โซล่าเซลล์คือคำตอบ บทความนี้ SKE จะพาไปดูว่าโรงงานสามารถพลิกเกมทางการเงินนี้ได้อย่างไร
ทำความเข้าใจ OPEX vs. Asset
- OPEX (Operating Expenses): คือ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจปกติ เช่น ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำ, ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงาน เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ของบริษัทโดยตรง
- Asset (สินทรัพย์): คือ ทรัพย์สินที่บริษัทเป็นเจ้าของและคาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต เช่น ที่ดิน, อาคาร, เครื่องจักร รวมถึง "ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์"
โซล่าเซลล์ "เปลี่ยน" ค่าไฟ ให้เป็นสินทรัพย์ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้เกิดขึ้นผ่านการลงทุนติดตั้งระบบโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงาน:
1. การลงทุนครั้งแรก (Initial Investment - CAPEX):
การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Capital Expenditure - CAPEX) คล้ายกับการซื้อเครื่องจักรใหม่ ระบบโซล่าเซลล์จะถูกบันทึกเป็น "สินทรัพย์" ในงบดุลของบริษัท
2. การลด OPEX อย่างถาวร:
ทันทีที่ระบบเริ่มทำงาน มันจะผลิตไฟฟ้าเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยตรง ทำให้โรงงาน:
- ลดการซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ: ค่าไฟฟ้า (OPEX) จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในทุกๆ เดือน
- ควบคุมต้นทุนพลังงานได้: ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์แทบจะเป็นศูนย์หลังจากติดตั้ง ทำให้ต้นทุนพลังงานต่อหน่วยมีความแน่นอนและไม่ผันผวนตามราคาค่า Ft
3. การสร้างผลตอบแทน (Return on Investment - ROI):
เงินค่าไฟฟ้าที่ "ประหยัด" ได้ในแต่ละเดือน เปรียบเสมือน "กระแสเงินสด (Cash Flow)" ที่สินทรัพย์ (ระบบโซล่าเซลล์) สร้างขึ้นมา เมื่อเวลาผ่านไป กระแสเงินสดนี้จะค่อยๆ ชดเชยเงินลงทุนเริ่มต้น จนถึง "จุดคุ้มทุน" และหลังจากนั้นคือ "กำไร" ตลอดอายุการใช้งานของระบบ (25+ ปี)
4. การเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน (Increased Property Value):
โรงงานที่สามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ ถือเป็นโรงงานที่มีประสิทธิภาพและมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า ย่อมมี "มูลค่า" ในตลาดสูงกว่าโรงงานที่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ 100% หากมีการประเมินราคาหรือต้องการขายกิจการในอนาคต ระบบโซล่าเซลล์จะถูกนับรวมเป็นมูลค่าเพิ่มของสินทรัพย์
ประโยชน์เพิ่มเติมที่มากกว่าตัวเงิน
- ภาพลักษณ์องค์กร (ESG): การลงทุนในพลังงานสะอาดช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Environmental, Social, and Governance)
- ความได้เปรียบทางการแข่งขัน: ต้นทุนพลังงานที่ต่ำลงช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
สรุป: การลงทุนที่ชาญฉลาดสำหรับโรงงานยุคใหม่
การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ไม่ใช่แค่การ "จ่ายเงิน" เพื่อลดค่าไฟ แต่คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อ "เปลี่ยน OPEX ที่ควบคุมไม่ได้ ให้กลายเป็น Asset ที่สร้างผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าให้กับกิจการ" มันคือการลงทุนในอนาคตที่ให้ทั้งความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม
---
ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน